รีวิวข้อมูลและฟังก์ชั่นการใช้งาน Amazfit Bip 3 Pro

สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่จากแบรนด์ Amazfit ที่มาในชื่อ “Amazfit Bip 3 Pro” กำลังได้รับการตอบรับจากลูกค้าจำนวนมากจากที่นี่ ผู้จัดจำหน่ายก็ไม่แพง เข้าถึงได้ง่ายเมื่อเจอเพื่อนบ้าน ดังนั้นหลายคนเริ่มหันมาพิจารณาเรื่องนี้ สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้โดยคำนึงถึงขนาดที่ไม่ได้รับ 44.2 x 36.6 x 7.6 มม. อนุญาตให้มีอยู่เพียงแค่ 120 ไมโครเมตรเท่านั้นที่สามารถสวมใส่ได้บนนี้จะต้องมีช่วงเวลาที่ไม่มีอาการปวดเมื่อยเลยแม้แต่น้อย ต่อเนื่องจากหน้านี้จะช่วยให้แบบ TFT ช่วยให้ 1.69 นิ้วและบันใดถึง 466 x 466 อนุญาตให้ทำได้เพื่อความสวยงามของการบันทึกและช่วยให้ชนะของใครหลายคน

สำหรับสมาร์ทวอทช์รุ่นดังกล่าว จะมีการใช้ระบบ Bluetooth 5.0 และมาพร้อมกับ GPS ในตัว โดยทำงานผ่านระบบปฏิบัติการ Amazfit OS ซึ่งรองรับการใช้งานกับระบบ Android 7.0 หรือระบบ iOS 12 ขึ้นไป แต่หากจะกล่าวถึงหนึ่งในจุดเด่นสำคัญ คิดว่าคงจะไม่พ้นการกันน้ำ 5 ATM (ความลึกประมาณ 50 เมตร) ดังนั้นจึงไม่ต้องมาคอยกังวลว่าสมาร์ทวอทช์จะเปียกน้ำเมื่อไหร่ จึงน่าจะถูกใจคนที่ชอบทำกิจกรรมออกกำลังกาย ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ภายในกล่อง จะมีอยู่ 3 สิ่งด้วยกัน ทั้งตัวเรือน Amazfit BIP 3 Pro , สายชาร์จแบบแม่เหล็ก และคู่มือการใช้งาน โดยมีการผลิตออกมาวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี อันประกอบไปด้วย สีครีม , สีดำ รวมไปถึง สีชมพู ด้วยเช่นกัน

ฟังก์ชั่นการใช้งานของ Amazfit Bip 3 Pro

  • สามารถเชื่อมต่อการใช้งานได้ง่ายๆ

เมื่อแกะกล่อง Amazfit Bip 3 Pro ออกมาแล้ว ขั้นตอนของการเชื่อมต่อก็นับว่ามีความสำคัญเช่นกัน โดยหากคุณเคยซื้อสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นในท้องตลาด อาจจะเคยพบเจอกับปัญหาเชื่อมต่อยุ่งยาก จนถึงขั้นต้องเปิดคู่มือกันจ้าละหวั่นเลยด้วยซ้ำไป แต่สำหรับ Amazfit Bip 3 Pro ถือว่าสามารถเชื่อมต่อได้ง่ายดาย เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Zepp แล้วทำการสแกน QR Code บนหน้าจอ ก็จะเริ่มต้นกระบวนการเชื่อมต่อในทันที

  • มีหน้าปัดของนาฬิกา มากกว่า 50 รูปแบบ

หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนของการเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องเลือก Watch Face ด้วย โดยมีหน้าปัดนาฬิกามาให้เลือกกันเยอะกว่า 50 รูปแบบ ที่สำคัญคือมีหลากหลายสไตล์ ทั้งพื้นฐาน คลาสสิค หรือแม้กระทั่งฟรีสไตล์ก็ตาม ฉะนั้นสามารถตัดสินใจเลือกกันตามความชื่นชอบของแต่ละคนได้เลย

  • สามารถใช้งานทั่วๆ ไป อย่างสะดวกสบาย

เมื่อลองใช้ Amazfit Bip 3 Pro มาสักระยะหนึ่ง จะพบว่ามันตอบโจทย์การใช้งานเป็นอย่างมาก เพราะจะมีการแจ้งเตือนต่างๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าจออยู่เสมอ โดยไม่จำเป็นต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเช็คการแจ้งเตือนเลย ซึ่งจะแจ้งเตือนในหลายรูปแบบด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น สายโทรเข้า , ข้อความ รวมถึงการแจ้งเตือนนั่งนาน เป็นต้น

  • แบตเตอรี่อึดมาก สามารถใช้งานได้ยาวนาน

ถึงแม้ความจุแบตเตอรี่ 280mAh อาจจะดูไม่ค่อยเยอะสำหรับใครหลายคน แต่เมื่อลองสัมผัสประสบการณ์การใช้งานจริงๆ จะเห็นชัดเลยว่าแบตอึดเหลือเกิน โดยหากใช้งานเต็มที่ก็สามารถอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ ส่วนคนไหนใช้งานทั่วๆ ไป สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 14 วันเลยทีเดียว

  • มีการใส่ฟังก์ชั่นทางด้านสุขภาพมาครบครัน

Amazfit Bip 3 Pro มาพร้อมกับฟังก์ชั่นทางด้านสุขภาพอย่างครบครัน ยกตัวอย่างเช่น การวัดออกซิเจนในเลือด , การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ , วัดคุณภาพการนอนหลับ และการตรวจจับความเครียด เป็นต้น

  • ที่ชอบออกกำลังกายได้เยอะถึง60 ห้ามพลาด

Amazfit Bip 3 Pro ไม่ต้องการเพียงแค่คำนึงถึงการประมวลผลเท่านั้น แต่รองรับการใช้งานที่บันทึกไว้โดยรองรับการใช้งานมากกว่า 60 ล้มเหลวในการรองรับ , ส่วนที่เหลือ , ที่เหลือ นักเตะการว่ายน้ำทุกคน

ราคาจำหน่าย : เริ่มต้นอยู่ที่ 1,650 บาท

โพสต์อื่นๆ:

คุณสามารถพิมพ์ข้อความบนสมาร์ทโฟนของตัวเองได้เร็วแค่ไหน?
ผู้ใช้ Android เช็คด่วน! 24 แอปพลิเคชั่น แถมมัลแวร์ Joker ที่จะสมัครใช้บริการต่างๆ ให้เราอัตโนมัติ
ไอ-ไอรีน AI สาวสวย Influencer สัญชาติไทย Metaverse Human เน็ตไอดอลเสมือนจริงคนแรกของประเทศ
เปิดตัว PS VR2 และวางจำหน่ายในปี 2023
NU Mobile ส่งโปรสุดคุ้ม 200 บาท ใช้เน็ต 10 Mbps ได้แบบไม่จำกัด
ถึงกับลั่นทั้งวงการ! Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทวอตช์รุ่นใหม่ ราคาไม่ถึง 500 บาท
รีวิวข้อมูลและฟังก์ชันการใช้งานEdifier NeoBuds S
รีวิว ข้อมูลและฟังก์ชั่นการใช้งาน AirPods Pro Gen 2
ข้อมูลแอพพลิเคชั่นจองคิวร้านดังQueQ
Versa 2 สมาร์ทวอทช์ตระกูล Fitbi สั่งงานได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้เสียง

baaitz

Next Post

รีวิวข้อมูลและฟังก์ชันการใช้งานEdifier NeoBuds S

Thu Mar 30 , 2023
ยุคนี้การตามหาหูฟังแบบทรูไวเลสราคาไม่ได้แพงมากแต่ได้หูฟังระดับเทพมีหลายแบรนด์มากที่วันนี้มอบให้ทุกคนนำรุ่นอื่นราคาไม่เบาก็จริงแต่คุณภาพที่ได้จากหู ฟังตัวนี้เกินตัวมาเยอะทีเดียวมาสายเกมสายหูฟังของสายเคเบิ้ลดูซีรีส์นี้ ข้อมูลเบื้องต้น รายการสินค้า Edifier NeoBuds เป็นหูฟังแบบทรูไวเลสรูปร่างตรงแกนหูฟังจะเป็นแบบเหลี่ยมเหมือนแถบสีดำตรงจุกหูฟังทำออกมาได้ดีมาก (แต่ต้องใส่จุกด้วยที่เหลือพอดี) กล่อง ใส่เป็นสีดำเข้าชุดกับหูฟังเป็นทรงเดียวกับตลับแป้งขนาดกำลังพอดีมือ แบล็กสวยเด่นแบบไม่ต้องใส่เคสเพิ่มเติม คุณสมบัติที่หูฟังตัวนี้ทำได้ ก็จะมี โหมดตัดเสียงรบกวนที่ตัดเสียงรบกวนสูงสุดที่ 42 เดซิเบล สองโหมดฟังเสียงรอบข้างผ่านหูฟัง ที่จะทำให้เราไม่ได้ถูกตัดจากสิ่งรอบข้างมากเกินไป โทนเสียงที่ให้ก็แม่นยำดูเป็นธรรมชาติ ฟังแล้วไม่เพี้ยน สามความสามารถด้านไมโครโฟนถือว่าดี ใส่หูแล้วพูดได้ชัดเจน ไมค์ตัดเสียงแบบ 6 ตัว ทำให้อีกฝ่ายได้ยินเสียงเราแบบใสมาก สี่โหมดเกมอันนี้ชื่นชมเลยว่าทำการบ้านมาดีมาก เสียงแทบจะไม่ดีเลย์เล่นได้ชัดมาก ยิ่งถ้าเล่นเกมสไตล์ FPS ที่ต้องการเสียงรอบข้างซ้ายขวาที่แม่นยำ อันนี้ทำมาดี ใส่เล่นแล้วรู้สึกได้เลยว่าใครเดินมาทางซ้ายหรือขวา ทำให้การเล่นดีขึ้นเยอะ หากความสามารถด้านการเปลี่ยนไฟ LED เราสามารถเปลี่ยนสีไฟกล่องชาร์ตจากแอปที่สั่งการ สุดท้ายตัวหูฟังสามารถกันเหงื่อ กันน้ำ กันฝุ่นที่ระดับ IP54 แบตสามารถใช้งานได้สูงสุด 6 ชั่วโมง รีวิวหลังการใช้งาน ที่เล่ามาเป็นความสามารถที่อ่านจากหน้ากระดาษ ทีนี้เรามาลองดูรีวิวหลังใช้งานจริงกันบ้าง เรื่องแรกเป็นดนตรีก่อน ต้องยอมรับว่าสายดนตรี ใครชอบฟังเพลงหูฟังตัวนี้ตอบโจทย์ได้ตามต้องการ […]