รีวิว! VIVO V20 SE น้องใหม่มาแรง ราคาน่าคบหา

เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนน้องเล็กสุดในซีรีย์ ที่มาแรงมากๆ เลยทีเดียว เพราะมีจุดเด่นที่สำคัญสำหรับสาวกโซเชียลทั้งหลายนั้นก็คือกล้อง ที่มาพร้อมความละมุน ชนิดที่ว่าใครถ่ายก็สวยนั้นเอง นอกจากนั้นยังมีสเปกคุ้มๆ ที่มาพร้อมกับเครื่องในราคาไม่ถึงหมื่นบาท! เป็นราคาที่หาคบหาเลยทีเดียวเชียว วันนี้เราได้จัดรายละเอียดต่างๆ ของเจ้าเครื่องนี้มาให้ทุกคนได้ดูกัน

ดีไซน์ภายนอกของ Vivo V20 SE

เริ่มที่ดีไซน์การออกแบบของฝาหลังนั้น เรียกว่าเรียบง่ายไม่มีลวดลายใดๆ มีเพียงแค่โลโก้ยี่ห้อ VIVO นั้นเองที่เด่นชัดขึ้นมาจากมุมล่างซ้ายเท่านั้น ส่วนขอบล่างสองด้านก็จะเป็นแบบโค้ง 3 มิติ (3D Curve) แถมยังมีความเบาบางเพียงแค่ 7.83 มม. เพื่อช่วยให้การจับนั้นกระชับมือมากขึ้น

 

ส่วนฝาหลังนั้นมีให้เลือกถึง 2 สี ก็คือสีดำ (Gravity Black) และสีฟ้า (Oxygen Blue) และแน่นอนว่าความสวยงานนั้นก็จะแตกต่างกัน โดยสีดำจะให้ความสุขุมนุ่มลึก แต่แฝงมาด้วยความน่าค้นหา จากลูกเล่นไล่โทนมืดไปสว่างนั้น ยามแสงตกกระทบ ส่วนสีฟ้าจะให้ความรู้สึกสดชื่น ปลอดโปร่งเหมือนอยู่กับธรรมชาติสูดออกซิเจน จากการไล่สีจากฟ้าไปขาวนั้นเอง

ส่วนวัสดุของฝาหลังนั้น ก็ทำเอาเซอร์ไพรส์เลยทีเดียวเพราะหากมองด้วยตาเปล่าก็อาจจะเห็นเป็นกระจกเพราะความมันวาวนั้น แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ ฝาหลังของ Vivo V20 SE นั้นทำมาจากพอลิเมอร์เกรดสูง (High Polymer) ข้อดีคือให้ความมันวาวคล้ายกับกระจก รอยนิ้วมือติดง่ายเหมือนกัน แต่มีน้ำหนักเบากว่า แล้วคงทนกว่ากระจกนั้นเอง โดยให้น้ำหนักตัวอยู่ที่ 171 กรัมเท่านั้นเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีทั้งความหนาและน้ำหนักที่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในตลาดตอนนี้

รอบตัวเครื่องของ Vivo V20 SE

โดยรวมรอบตัวเครื่องของ Vivo V20 SE ก็เหมือนกับสมาร์ตโฟนทั่วไป ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก มีปุ่มควบคุมการเพิ่มเสียงและลดเสียง รวมถึงปุ่มปลดล็อคเครื่องอยู่ด้านข้างด้วย ส่วนบนก็เป็นช่องใส่ซิมการ์ด 4G แบบ 2 ซิม พร้อมกับใส่เมมโมรี่การ์ดซึ่งเพิ่มความจุได้ถึง 1 TB เรียกได้ว่าเก็บรูปและวิดีโอได้จุใจกันเลยทีเดียว ไม่ต้องกลัวเต็ม

และในรุ่นนี้ก็ยังมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. พร้อมกับแถมหูฟังมาให้ในกล่องอีกด้วย ด้านพอร์ต USB-C ก็รองรับการชาร์ทไว แรงดันไฟ 33W (Flash Charge) เข้าแบตเตอรี่ 4,100 mAh เร็วทันใจ ชาร์ทเร็วถึง 62% ใน 30 นาที ความอึดของแบตเตอรี่นั้นก็พอสมควร ใช้งานได้ทั่วไปจบวันแบบไม่ต้องลุ้น สำหรับเรื่องเสียง ก็เป็นลำโพงตัวเดียว (Mono) เวลาฟังเพลงเสียงก็จะออกที่ด้านล่างจุดเดียว จึงไม่ได้มิติเท่ากับลำโพงสเตอริโอ แต่คุณภาพเสียงนั้น ทุกอย่างถือว่าดี ฟังเพลงเพลินๆ ได้สบายๆ

หน้าจอ Vivo V20 SE

ถึงแม้จะเป็นราคาที่ไม่สูงมาก แต่หน้าจอที่มีมาให้นั้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะใช้จอแบนแบบ (Flat) เป็น AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว แบบ 60Hz ที่แม้จะไม่ใช่จอนุ่ม แต่แสงสีนั้นก็ตามมาตรฐาน NTSC ได้ถึง 103 % เรียกได้ว่าสีสันสดสมจริงเลยทีเดียว และข้อดีของจอแบบนี้คือไม่มีอาการจอสั่นเหมือนจอโค้ง เหมาะกับการใช้งานมือเดียว หรือการเล่นเกม นอกจากนี้ใต้จอยังมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือที่ปลดล็อคทันใจ และยังรวมไปถึงการปลดล็อคด้วยใบหน้าอีกด้วย

กล้องหน้าของ Vivo V20 SE

มาถึงไฮไลต์ที่ทุกอย่างจะรู้เกี่ยวกับกล้องหน้าของเจ้าตัว Vivo V20 SE อย่างกล้องหน้า 32MP ของเจ้าตัวนี้เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มกับราคามาก เพราะมีโหมดให้เลือกเยอะมากสำหรับการถ่ายรูปไม่ว่าจะเป็นการเซลลี่ กล้องหน้า หรือกล้องหลัง รวมถึงวิดีโอ

เริ่มต้นจากกล้องหน้า Vivo V20 SE ซึ่งมีความละมุนอยู่แล้ว โดยโหมดนี้จะช่วยปรับหน้าให้เรียบเนียน ดูเรียว ผิวขาวอมชมพู จุดนี้น่าจะถูกอกถูกใจสาวๆ สายเซลฟี่อย่างแน่นอน แถมรูปถ่ายนั้นก็ยังมีคุณภาพคมชัด โทนสีดูสว่าง สดใจ อมชมพูหน่อยๆ อีกด้วย รวมไปถึงช่วงอาทิตย์ลับขอบฟ้า การถ่ายในที่ๆ แสงน้อยๆ เหลือแต่แสงจากหลอดไฟ ก็ยังคงคุณภาพการถ่ายไว้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าหน้าไม่เป็นวุ้นให้ขุ่นใจเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีโหมดฟีเจอร์ท่าทาง ที่เมื่อไหร่ที่คิดท่าทางไม่ออกใช้ฟีเจอร์นี้รับรองว่าปัง เพราะฟีเจอร์นี้จะเป็นไกด์ท่าถ่ายรูปให้ ด้วยเส้นประมีหลายหลายสไตล์ ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย จะถ่ายแบบคูลๆ หรือแบ๊วๆ ก็มีให้เลือกมากมายเต็มไปเลยหมด

ส่วนใครที่อยากได้ภาพสไตล์ย้อมสี ก็มีฟิลเตอร์ให้เติมแต่งในแอปฯ ถ่ายรูปกว่า 20 รูปแบบ เลือกปรับระดับได้อีกด้วย

ต่อมาเป็นกล้องหลัง Vivo V20 SE โดยรุ่นนี้จะมีกล้องหลังถึง 3 เลนส์ ด้วยกัน การวางแนวตั้งประกอบด้วย เลนส์หลัก 48MP , เลนส์มุมกว้าง 8MP , และเลนส์จับระยะ 2MP สำหรับเอฟเฟกต์ทำหน้าชัดหลังละลาย

สำหรับเลนส์หลัก 48 MP นั้น กับโหมดถ่ายภาพธรรมดา ต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้ดีมาก ความคมชัดดีเยี่ยม เก็บความละเอียดของสีพื้นหลังและวัตถุต่างๆ ให้ออกมาเป็นสีสันสดใสตามสไตล์ แต่ถ้าไม่ต้องการฉากหลังก็เปิด “โหมดโบเก้” ได้เช่นกัน จะช่วยทำให้ฉากหลังละลายเป็นวุ้นได้ โดยจะใช้เลนส์จับระยะ 2MP เข้าช่วยในการจับภาพ คุณภาพที่ออกมาก็ถือว่าเนียนตามาก แต่ถ้าซูมเข้าไปนั้นก็จะเห็นว่าขอบผมหรือขอบเสื้อยังเก็บรายละเอียดได้ไม่ดีเท่าที่ควร แนะนำให้ใช้ฉากหลังที่ไม่ซับซ้อนจะช่วยให้ภาพออกมาสวยงามได้มากขึ้น และตั้งค่าไว้แค่ F/4 เวลาถ่ายจะช่วยให้การเก็บขอบทำได้ดีขึ้น

ถัดมาจะเป็นภาพจากมุมกว้าง เลนส์มุมกว้าง 8MP นั้นสามารถเก็บรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคน พื้นหลัง หรือวัตถุต่างๆ จะได้สีสันที่สวยงามออกมา และเวลาถ่ายย้อนแสงหน้าก็ไม่ดำเพราะมีฟีเจอร์ HDR แถมยังแก้ไขความบิดเบี้ยวของภาพได้อีกด้วย ทำให้ภาพไม่บวมตามขอบภาพนั่นเอง (สามารถเปิด/ปิดการแก้ไขได้)

นอกจากนี้ยังมีเลนส์มุมกว้าง 8MP ยังเป็นเลนส์มาโครในตัวด้วย สามารถโฟกัสได้ในระยะใกล้ๆ ไม่ว่าจะถ่ายดอกไม้หรือความสวยงามของธรรมชาติ ก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างไปตามวัตถุนั้นๆ ได้อีกด้วย ระดับความคมชัดนั้นถึงแม้จะไม่ได้มากนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับการอัพลงโซเชียลมีเดียแน่อน

สำหรับการซูม จากเลนส์หลัก 48MP แบบ Optical ได้ 2 เท่า และซูมแบบเห็น Digital ได้ถึง 10 เท่า แต่คุณภาพที่ได้นั้น จะได้ถึงแค่ 1-2 เท่า เพราะถ้ามากกว่านั้นภาพก็จะแตกขึ้นเรื่อยๆ

ที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั้นก็คือ วีดีโอของกล้องหลัง Vivo V20 SE นั้นเอง โดยตัวเลนส์หลัก 48 MP สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดอยู่ที่ 4K / 30fps แต่ถ้าเป็นกล้องมุมกว้างจะได้อยู่ที่ 180p / 30fps เท่านั้น และถ้าจะเปิดโหมดเพิ่มความงามขณะถ่ายก็ปรับความละเอียดไว้ที่ 720p / 30fps อย่างเดียว อันนี้ถือว่าเป็นข้อจำกัดที่ควรพูดถึง

รายละเอียดของตัวเครื่อง Vivo V20 SE

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1080p)
  • ชิบเซต Qualcomm Snapdragon 665 (รองรับ 4G)
  • แรม 8 GB
  • ความจุ 128GB (เพิ่ม MicroSD สูงสุด 1 TB)
  • กล้องหน้า 32MP
  • กล้องหลัง Triple Camera ความละเอียด 48MP + 8MP +2MP
  •  แบตเตอรรี่ 4,100 mAh
  • ชาร์ทเร็ว 33W (FlashCharge 2.0)
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 + Funtouch OS 11

ราคาเพียง 8,999 บาท เท่านั้น

baaitz

Next Post

Apple เปิดตัว iPhone 12 ใหม่!

Fri Nov 13 , 2020
สำหรับการเปิดตัว Apple iPhone 12 วันนี้เรานำข้อมูลต่างๆและราคามาให้สาวกชาว Apple ได้ใช้ในการตัดสินใจ เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น  Iphone12 , iPhone 12Pro , และiPhone 12Pro Max เริ่มต้นกันด้วย Apple iPhone 12 วางจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 ปี 2020 (พฤศจิกายน) ราคาเปิดตัวเริ่มต้นอยู่ที่ 29,900 บาท iPhone 12 ความจุ 64GB ราคา 29,900 บาท iPhone 12 ความจุ 128GB ราคา 31,900 บาท iPhone 12 ความจุ 256GB ราคา 35,900 บาท […]